วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เทคโนโลยีที่คุณอาจลืมไปแล้ว

20 Greatest Gadgets Never Die (?)

กาลเวลาทำให้หลายอย่างผ่านมา แล้วก็ผ่านไป ไม่พ้นแม้กระทั้งเทคโนโลยีใหม่ทั้งหลายที่ว่าแน่ เมื่อเจอที่เจ๋งกว่าก็ต้องกลายเป็นเก่าไปซะอย่างนั้น บางอย่างเก่าแล้วก็ยังพอมีให้เห็น บางอย่างก็เก่าแล้วเก่าเลยเชยไม่ได้หวนกลับ ทว่าบางอย่างจะให้เก่ายังไงก็ดูท่าจะอยู่คู่ผู้คนไปอีกนาน งั้นเพื่อต่อวิวัฒนารการของเทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เรามาดูกันหน่อยเถอะว่า ตั้งแต่โลกตื่นเต้นกับเทคโนโลยีมากขึ้น มนุษย์คิดค้นอะไรที่เคยอินเทรนด์มาแล้วบ้าง

เก่าไป ใหม่มายังจำได้ไหมว่า อะไรเคยสร้างกระแสใหม่ๆ และก็ตกรุ่นไปโดยสดุดี

วิทยุทรานซิสเตอร์ จุดเกิดเหตุ : ยุค 50s

ถือกำเนิดโดยบริษัทโซนี แต่จะว่าไปได้มีการค้นพบระบบทรานซิสเตอร์มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1928 เป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำที่สามารถขยายสัญญาณเสียงและสัญญาณความถี่วิทยุ วิทยุทรานซิสเตอร์จึงทำหน้าที่เป็นเครื่องรับสัญญาณความถี่กระจายเสียง ทั้งมีขนาดเล็ก เบา และไม่เปลืองแบตเตอรีเหมือนวิทยุแบบ ใช้หลอด ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่นิยมก่อนเครื่องเล่นเทปจะเกิด ปัจจุบันยังพอมีให้เห็น โดยพัฒนาให้มีลูกเล่นมากขึ้น เช่น การเสียบหูฟัง



โทรศัพท์กระติกน้ำ จุดเกิดเหตุ: ยุค 80s

นี่คือวิวัฒนาการที่ค่อนข้างถือว่าโฉบเฉี่ยวแซงหน้าคู่แข่งขณะนั้น โทรศัพท์มือถือรุ่นแรกออกมาในนามว่า DynaTAC 8000X รูปร่างค่อนข้างใหญ่ หนัก มีไฟสำหรับการโทร.ได้ 1 ชั่วโมง สามารถจดจำรายชื่อได้ 30 ชื่อ และก็สนนราคาใหญ่พอๆ กับตัวเครื่องที่ 3,995 ดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้จะราคาสูง แต่ก็ค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมู่คนทุนหนา อย่างนักธุรกิจที่นิยมความคล่องตัวในการโทร. แม้ไม่ค่อยคล่องตัวในการเก็บก็ตาม



เพจเจอร์ จุดเกิดเหตุ: ยุค 90s


เกิดขึ้นเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการส่งข่าวสารถึงกันได้อย่างรวดเร็วขึ้น เพราะตอนนั้นถึงแม้โทรศัพท์จะมีการพัฒนามากขึ้น แต่ราคาก็ยังแพงหูฉี่ เพจเจอร์มีหลากรูปแบบ มีทั้งที่รับข้อความอย่างเดียว และรุ่นท็อปขึ้นมาหน่อยก็คือเป็นแบบที่มีปุ่มพิมพ์แล้วส่งได้เลยด้วยตัวไวร์เลส เพียงแค่โทร.ไปที่ศูนย์บริการ บอกหมายเลขเครื่องผู้รับและบอกข้อความ พนักงานก็จะพิมพ์และส่งไปให้...ถ้าไม่เขินคำพูดตัวเองกับพนักงานซะก่อนนะ



เทปคลาสเซ็ต จุดเกิดเหตุ: ยุค 60s

ประดิษฐ์ขึ้นมาครั้งแรกโดยบริษัทฟิลลิปส์ ประเทศเนเธอร์เเลนด์ และท็อปฮิตติดชาร์ตอย่างถล่มทลายในช่วงปี ค.ศ. 1980 คาดกันว่าเทปคลาสเซ็ตเริ่มฮิตมาก เพราะใช้บันทึกรายการวิทยุต่างๆได้ แต่ด้วยปัญหาที่ตัวเทปไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน อาจมีการหย่อนยานของเสียง แถมแตกหักง่าย ทำให้ตลาดซีดีตีตื้นขึ้นมา และครองความเป็นเจ้าตลาดเพลงในที่สุด


วอร์กแมน จุดเกิดเหตุ : ยุค 70s
หรือที่เรียกกันว่า ซาวด์อะเบาต์ ต้องยกให้ทางโซนีที่สร้างแบรนด์อมตะนี้ขึ้นมา เปิดตัวด้วยรุ่น TPS – L2 พัฒนามาจากเครื่องเล่นเทปแต่ตัดฟังก์ชั่นบางอย่าง เช่น การบันทึกเสียงกับลำโพง แต่เพิ่มวงจรสเตอริโอที่เล่นกับเฮดโฟนเข้ามา จึงทำให้มีขนาดเล็กลง ต่อมาก็ได้พัฒนาให้สามารถอัดเสียง และในที่สุดก็เลื่อนขั้นเป็นเครื่องเล่นแผ่นซีดี หรือซีดี วอร์กแมน ก่อนที่ยุค MP3 จะกลืนไปเกือบหมดในเวลาต่อมา แต่ถึงยังไงตำนานวอร์กแมนก็เป็นแม่แบบของการฟังเพลงแบบพกพามาจนถึงปัจจุบัน

ฟิล์ม จุดเกิดเหตุ : ยุค 80s
ฟิล์มม้วนแรกเกิดขึ้นจากฝีมือของ ตอร์จ อีตส์แมน ผู้ก่อตั้งบริษัทโกดัก โดยอีก 5 ปีต่อมาเขาก็ประดิษฐ์กล้องถ่ายรูปที่ใช้คู่กับฟิล์มได้สำเร็จ เขาผู้นี้จึงถือว่าเป็นผู้เปลี่ยนการถ่ายภาพให้นิยมกันมากขึ้น ไม่ใช่เป็นแค่งานอดิเรกราคาแพงสมัยก่อนหน้า ฟิล์มยุคแรกก็คือฟิล์มขาวดำ และเริ่มกำเนิดฟิล์มสีหลังจากนั้นร้อยกว่าปี ก่อนจะพัฒนามาเรื่อยๆ มีให้เลือกหลายแบบตามลักษณะการใช้ แต่ความนิยมก็ตกลงไป เมื่อทุกอย่างล้วนเป็นดิจิตอลมากขึ้น

กล้องอ่อนจุดเกิดเหตุ: ยุค 60s
เพื่อขจัดปัญหามือไม่โปรแต่อยากถ่ายภาพ (บ้าง) กล้อง Kodak Instamatic 100 จึงคลอดออกมามา เป็นกล้องขนาดพกพาและใส่ฟิล์มหลังกล้องได้เลย และถ้าจะถ่ายก็เพียงเล็ง กด หมุนเลื่อนไปยังภาพต่อไป พิเศษด้วยตัวแฟลชป็อบอัพ นี่จึงเป็นที่มาของคำว่ากล้องปัญญาอ่อน คือไม่ต้องทำอะไรแค่ถ่ายอย่างเดียวเป็นพอ ยุคหลังอาจจะมีฟังก์ชั่นตั้งวันเวลา กรอฟิล์มเองอัตโนมัติเข้ามาเพิ่มเติม แต่ก็แทบจะไม่เห็นแล้วในปัจจุบัน
วิดีโอเกมแบบเสียบตลับ จุดเกิดเหตุ : ยุค 60s
เครื่องเล่นเกมชนิดนี้เริ่มต้นด้วยการเป็นแค่วิดีโอเกมที่เสียบกับจอโทรทัศน์ ต่อมาจึงมีการพัฒนามาใช้ตลับเกม ตลับเกม (ของแท้) มีความคงทน ไม่พังง่าย แต่ก็มีความจุน้อย ในขณะที่ตลับเกมมีความจุสูงสุดที่ 64 เมกะไบต์ แต่ CD - ROM มีความจุถึง 650 เมกะไบต์ นอกจากนี้ตลับเกมนั้นผลิตได้ยากกว่าและแพงกว่าซีดี ทำให้เครื่องเกมที่ใช้ CD-ROMอย่างเพลย์สเตชันหรือเซกาแซตเทิร์น ถูกพัฒนาไปมากกว่า
Game Boy จุดเกิดเหตุ : ยุค 80s
เกมบอย ตัวแรกว่า Nintendo Game Boy ลักษณะของเกมบอยคือส่วนผสมของเกมกดและเกมต่อโทรทัศน์แบบใช้ตลับ ทั้งปุ่มและการบังคับจะใช้แบบเดียวกัน ตลับเกมก็เปลี่ยนมาเป็นแผ่นเกมย่อส่วน จอก็ย่อขนาดลงมา รุ่นแรกนี้ใช้โปรเซสเซอร์แบบ Zilog Z80 และจอภาพ LCD ขาวดำหรือเขียว และหลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มมีการผลิตเกมบอยหน้าจอสี ที่แสดงสีได้ถึง 65,000 สีบนหน้าจอเดียว ซึ่งก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง




พิมพ์ดีด จุดเกิดเหตุ : ค.ศ. 1694
ในประเทศไทยเป็นที่นิยมมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เรื่อยมา นิยมที่จะใช้ทำเอกสารต่างๆ เพราะดูเรียบร้อยและอ่านง่าย ต่อมาก็พัฒนาการตัวเองเป็นแบบเครื่องไฟฟ้าบ้าง พิมพ์ง่ายขึ้นด้วยมีปุ่ม Shift, Shift Lock, Alt มีตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก มีปุ่ม CORRECT ใช้ลบตัวพิมพ์ผิดโดยจะใช้หลักการ เทปติดหมึกออกมาจากกระดาษ แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีข้อด้อยกว่าคอมพิวเตอร์ที่สามารถแก้ไข และใส่ลูกเล่นได้เยอะกว่า


Floppy Disk จุดเกิดเหตุ : ยุค 70s
หรือที่นิยมเรียกกันว่าแผ่นดิสก์ คอมพิวเตอร์สามารถอ่านและเขียนข้อมูลบนดิสก์ได้ทางฟล็อปปี้ไดรฟ์ รุ่นแรกๆ ดิสก์จะค่อนข้างใหญ่ บอบบาง และต้องใช้เฉพาะครื่องเท่านั้น แต่รุ่นหลังได้พัฒนาให้แข็งแรงขึ้น เก็บง่ายและใช้ได้กับทุกเครื่อง ซึ่งก็คือแผ่นดิสก์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี่แหละ แต่ถึงราคาต่อแผ่นถูก ช่องฟล็อปปีเอของใครหลายคนตอนนี้ก็ถูกทิ้งร้าง เพราะเจ้า USB ดันมาแรงแซงหน้าด้วยความจุ และความทนทาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น